วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

วันเด็กแห่งชาติ

                                   


                                                          วันเด็กแห่งชาติ                                            

                            เด็กเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง เด็กจึงควรเตรียมตัวที่จะเป็นกำลังของชาติด้วย การขยันหมั่นศึกษาหาความรู้และใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย มีความขยันขันแข็งตั้งใจทำงานด้วยความรับผิดชอบยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ตลอดจนมีความเมตตากรุณาช่วยเหลือเอื้อเฟื้อผู้อื่น เสียสละและบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม ช่วยกันรักษาความสะอาดและอนุรักษ์ทรัพยากร ตลอดถึงสาธารณสมบัติส่วนรวมของชาติ หากเด็กทุกคนได้ตระหนักถึงอนาคตของตนและของประเทศชาติ โดยพยายามประพฤติปฏิบัติตนให้ได้ตามที่กล่าวข้างต้นอย่างเหมาะสมกับวัยแล้วก็จะได้ชื่อว่าเป็น “เด็กดี” ชาติบ้านเมืองก็จะเจริญมีความผาสุกร่มเย็นตลอดไป ความคิดในการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองนั้นนายวีเอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศได้เสนอต่อกรมประชาสงเคราะห์ให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็ก วันเด็กแห่งชาติของประเทศไทยจึงมีขึ้นในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ และปฏิบัติกันเรื่อยมาถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๖ต่อมาเห็นว่าวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม เหมาะสมสำหรับการจัดงานวันเด็กมากกว่า เนื่องจากพ้นฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการ แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้จัดกันตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘ งานวันเด็กแห่งชาติจึงจัดใหม่ให้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม มาจนถึงบัดนี้                                           
                          
                             ในการจัดงานวันเด็กแห่งชาติรัฐบาลได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้นคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน กำหนดฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เด็กทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน พร้อมกันทั่วประเทศเพื่อให้เด็กได้รู้ถึงความสำคัญของตนเอง รู้ถึงความมีระเบียบวินัย ความรู้จักสิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทุกปีเมื่อถึงวันเด็กแห่งชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพระบรมราโชวาท สมเด็จพระสังฆราชเจ้าทรงโปรดประทานพระคติธรรม และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะมอบคำขวัญวันเด็กให้กับเด็กไทยทุกปี อาทิเช่น พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๒๘ “คนทุกคนมีภาระต้องทำ แม้เป็นเด็ก ก็มีภาระอย่างเด็ก คือศึกษาเล่าเรียน หมายความว่าจะต้องเรียนให้รู้วิชา ฝึกหัดทำการงานต่าง ๆ ให้เป็น อบรมขัดเกลาความประพฤติและความคิดจิตใจให้ประณีต ให้สุจริตแจ่มใสและเฉลียวฉลาดมีเหตุผล เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง” หรือคำขวัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๙ “เด็กต้องหัดทำตัวให้สุภาพอ่อนโยน หมั่นขยัน เอางานเอาการ เอื้อเฟื้อช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ อยู่เสมอให้ติดเป็นนิสัย จักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์และมีความเจริญมั่นคงในชีวิต”


คำขวัญวันเด็กประจำปี พ.ศ. 2556 :  “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น